ทำความรู้จักเกี่ยวกับรถยนต์ไฟฟ้า
เกิดจากการพัฒนาทางเทคโนโลยี จึงทำให้รถยนต์ชนิดนี้ใช้เพียงพลังงานไฟฟ้าในการขับเคลื่อน และสามารถชาร์จไฟได้อย่างสม่ำเสมอเมื่อแบตเตอรี่หมด โดยรถยนต์ไฟฟ้านี้จะมีองค์ประกอบหลักสำหรับการขับเคลื่อนคือ แบตเตอรี่ อุปกรณ์แปลงกระแสไฟฟ้า และมอเตอร์ไฟฟ้า
เทคนิคการใช้รถยนต์ไฟฟ้าที่ถูกต้อง
1. วางแผนก่อนใช้งานรถยนต์ไฟฟ้า
3. ขับรถด้วยความเร็วที่คงที่
แน่นอนว่าการขับรถตามที่กฎหมายกำหนดนั้นคนใช้รถทุกประเภทควรปฏิบัติกัน หากเราขับรถด้วยความเร็วคงที่ก็จะช่วยให้รถเราประหยัดพลังงานได้มากขึ้น ยกตัวอย่างเช่น หากเราขับรถด้วยความเร็ว 90 กม./ชม. เราจะสามารถขับรถได้ระยะทางที่ไกลกว่าการขับรถด้วยความเร็ว 120 กม./ชม.
ก่อนออกเดินทางตรวจสอบแผนทางและระยะทางที่คุณจะขับรถให้ดีที่สุด เพื่อลดการใช้พลังงานที่ไม่จำเป็น เนื่องจากว่ารถยนต์ไฟฟ้ามีข้อจำกัดในเรื่องของระยะทางอย่างน้อยก็ 300 กิโลเมตรขึ้นไป บางรุ่นอาจขับได้ระยะทางมากกว่านี้ ซึ่งจะแตกต่างกันไปในแต่ละรุ่น หากเรามีแผนการขับรถเดินทางที่ไกลกว่านั้นเราควรวางแผนการเดินทางให้ดี และควรหาสถานีชาร์จบริเวณใกล้เคียงพื้นที่นั้นไว้ด้วย หากต้องชาร์จไฟฟ้ากรณีฉุกเฉิน
4. เบรกเพื่อชาร์จแบตเตอรี่
2. ควรชาร์จไฟให้ได้ระดับ 80%
รถยนต์ไฟฟ้ามักมีระบบเบรกที่ช่วยในการกู้คืนพลังงานในขณะที่คุณเบรก ลดการใช้พลังงานที่ต้องใช้ในการชาร์จแบตเตอรี่ เป็นการชาร์จตามสภาพจราจรหรือสภาพการขับขี่ เป็นกระบวนการเปลี่ยนพลังงานจลน์ไปเป็นพลังงานไฟฟ้าเก็บไว้ที่แบตเตอรี่ ไม่ว่าจะเป็นเบรกเมื่อถึงทางแยก เบรกเมื่อเข้าเขตจำกัดความเร็ว เบรกเมื่อมีสิ่งกีดขวาง ล้วนเป็นการชาร์จไฟเข้าแบตฯ ทั้งสิ้น
การชาร์จไฟให้อยู่ระดับ 80% ถือเป็นช่วงที่ดีที่สุดสำหรับรถไฟฟ้า ช่วยประหยัดเวลาในการชาร์จและการเดินทางได้ดี สิ่งสำคัญคือไม่ควรใช้งานจนแบตเตอรี่รถเหลือ 0% แล้วถึงชาร์จ เพราะจะทำให้แบตเตอรี่ทำงานหนักขึ้น หรือหากเรามีความจำเป็นต้องจอดรถไฟฟ้าทิ้งไว้นานเป็นเดือน ควรให้รถมีแบตเตอรี่อย่างน้อย 30%
5. อุณหภูมิที่เหมาะสมจะช่วยในการยืดอายุแบตเตอรี่
สุดท้ายเราควรที่จะรักษาอุณหภูมิมิให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม ไม่ควรปล่อยให้เครื่องยนต์ร้อน หรือเย็นจนเกินไป เนื่องจากจะส่งผลต่อสมรรถนะและประสิทธิภาพของแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้า และยังเป็นผลต่อการขับรถระยะทางไกลที่สุดที่จะวิ่งได้
ข้อดีของรถยนต์ไฟฟ้า
1. ความเงียบและอัตราเร่งที่ได้ดั่งใจของคนขับ
รถยนต์ไฟฟ้าใช้พลังงานไฟฟ้าจากแบตเตอรี่สู่มอเตอร์เพื่อทำการขับเคลื่อน โดยที่ไม่ได้ใช้เครื่องยนต์สันดาป ภายในจึงไม่ก่อให้เกิดการเผาไหม้ ทำให้เสียงของการทำงานของรถยนต์ไฟฟ้านั้นเงียบกว่ารถยนต์ที่ใช้น้ำมันเชื้อเพลิงหลายเท่า และสามารถทำให้มีอัตราเร่งเป็นไปได้อย่างที่ใจต้องการ เพราะไม่มีขั้นตอนการทดเกียร์อีกต่อไป จึงทำให้รถยนต์สามารถตอบสนองในการขับขี่ได้ตามความต้องการของผู้ขับ
2. ประหยัดค่าใช้จ่ายและค่าซ่อมบำรุง
รถยนต์ไฟฟ้าจะช่วยคุณประหยัดเงินค่าน้ำมันและค่าซ่อมบำรุง เพราะรถยนต์ชนิดนี้ใช้พลังงานไฟฟ้ามาแทนที่ของน้ำมันเชื้อเพลิงที่มีราคาสูง เช่นเดียวกันกับค่าใช้จ่ายในการซ่อมบำรุงรถยนต์ไฟฟ้า ที่จะมีค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาน้อยกว่า เพราะ ไม่มีเครื่องยนต์ และไม่ต้องเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง จึงทำให้การดูแลรักษาเป็นเรื่องที่ง่ายขึ้น ไม่ต้องเสียเวลาในการนำรถยนต์ไปเข้ารับการบำรุงรักษาบ่อยๆ
3. ช่วยลดมลภาวะ
สำหรับโลกของเราที่ตกอยู่ในสภาวะโลกร้อน รถยนต์ไฟฟ้าคือคำตอบที่เหมาะสมอย่างยิ่ง สำหรับการลดมลภาวะของโลก เพราะไม่มีการเผาไหม้ของเครื่องยนต์ที่ก่อให้เกิดไอเสียและมลภาวะทางอากาศที่นำไปสู่ภาวะโลกร้อน เช่นควันไอเสียของรถยนต์ก็จะหายไป
4. ไม่ต้องเสียเวลาอีกต่อไปเพราะสามารถชาร์จแบตได้ที่บ้านคุณ
การต่อคิวเพื่อเติมน้ำมันเชื้อเพลิงยังคงเป็นปัญหากวนใจของหลายคน อีกทั้งบางบ้านไม่มีสถานีบริการน้ำมันที่อยู่ใกล้บ้านจึงทำให้ต้องเสียเวลาเดินทางไปยังปั๊มน้ำมัน แต่กับรถยนต์พลังงานไฟฟ้านั้น สามารถชาร์จแบตได้ที่บ้านของคุณเอง ซึ่งสามารถชาร์จได้ระหว่างที่นอนหลับ เมื่อตื่นเช้ามารถของคุณก็จะอยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน ไม่ต้องกังวลเรื่องการเสียเวลาที่สถานีบริการน้ำมันอีกต่อไป
ข้อเสียของรถยนต์ไฟฟ้า
1. ใช้เวลาในการเติมพลังงานช้ากว่าการเติมน้ำมัน
การชาร์จแบตเตอรี่ที่ใช้เวลาในการเติมพลังงานช้ากว่าการเติมน้ำมันนับสิบเท่าถือเป็นจุดอ่อนที่สำคัญ แม้ว่าปัจจุบันนี้เทคโนโลยีการชาร์จแบตเตอรี่ความเร็วสูงจะพัฒนาไปอย่างก้าวกระโดด แต่สุดท้ายก็ยังช้ากว่าการเติมน้ำมันอยู่ดี
2. ข้อจำกัดด้านระยะทางในการขับขี่
ปัจจุบันนี้ระยะทางขับขี่ของรถยนต์ไฟฟ้ายังถูกจำกัดด้วยความจุของแบตเตอรี่และประสิทธิภาพของมอเตอร์ไฟฟ้า แม้เทคโนโลยีด้านแบตเตอรี่จะถูกพัฒนาอยู่อย่างต่อเนื่อง แต่ด้วยระยะทางต่อราคาของรถยนต์ไฟฟ้าที่นับว่ายังค่อนข้างสูงอยู่ จึงเป็นอีกหนึ่งจุดอ่อนของรถยนต์ไฟฟ้าเมื่อเทียบกับรถที่ใช้น้ำมัน
3. อู่ซ่อมรถยนต์ไฟฟ้าโดยเฉพาะมีน้อย
ทุกวันนี้มีอู่ซ่อมรถยนต์สันดาปอยู่อย่างมากมาย แตกต่างจากอู่ซ่อมรถยนต์ไฟฟ้าที่แม้ว่าจะมีเหมือนกัน แต่ก็มักจะเป็นอู่เฉพาะทาง และมีจำนวนที่น้อยมาก ๆ ไม่ได้หาง่ายเหมือนกับอู่ซ่อมรถยนต์ที่ใช้น้ำมัน และในหลาย ๆ กรณีหากเกิดปัญหาขึ้นมาก็ต้องเข้าศูนย์บริการเท่านั้น
ติดต่อเราได้ที่
Thank you!
ig._qm1ntx